"หอเอนเมืองปิซ่า"
ประวัติของหอเอนเมืองปิซ่า
หอเอนเมืองปิซา (อิตาลี: Torre pendente di
Pisa หรือ La Torre di Pisa; อังกฤษ: Leaning
Tower of Pisa) ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza
Del Duomo) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก
8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) มีบันได 293 ขั้น
เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร ค.ศ.1987 หอเอนเมืองปิซาถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก
โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Piazza Dei Miracoli หอเอนเมืองปิซายังเป็น
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย ปัจจุบันนี้
หอเอนเมืองปิซ่า ลาดเอียงลงมาประมาณ 13 องศาแล้ว
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าหอเอนมีโอกาสพังถล่มลงมาแน่นอน โดยทุก ๆ 20 ปี หอคอยแห่งนี้จะเอนลง 1 นิ้ว และมีคนทำนายว่า
หอคอยแห่งนี้จะพังถล่มลงมาในปี 2200 หากยังไม่มีใครหาทางป้องกันได้
เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175
ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272
โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล
แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม
ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี
ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี
หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001
หอเอนปีซาได้รับ การปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา
ความเอนของหอปิซ่า
คือมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยว คนรักศิลปะและนักวิชาการ
ต้องไปสัมผัสความมหัศจรรย์นี้ และต่างมีคำถามว่าหอนี้ จะสามารถอยู่ได้ไปตลอดกาล
หรือจะพังลงมาเมื่อไหร่และยังมีนักดาราศาสตร์ชื่อดังของโลกที่ชื่อ กาลิเลโอ เคยใช้หอเอนเมืองปิซา
(Leaning
Tower of Pisa) นี้ทดลองเกี่ยวกับเรื่อง แรงโน้มถ่วง
ในตอนที่เขาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปิซา โดยใช้ลูกบอล 2 ลูกมี่น้ำหนักไม่เท่ากันทิ้งลงมา
เพื่อพิสูจน์ว่า ลูกบอล 2 ลูกจะตกถึงพื้นพร้อมกัน ซึ่งก็เป็นตามที่กาลิเลโอคาดไว้
ในปี ค.ศ.1934 เบนิโต
มุสโสลินี พยายามจะทำให้หอกลับมาตั้งฉากดังเดิม โดยเทคอนกรีตลงไปที่ฐาน
แต่กลับทำให้หอยิ่งเอียงมากขึ้นไปอีก
หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001
หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมาหลังจากนั้น
ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนเมืองปิซา (Leaning
Tower of Pisa) ได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา
มีความพยายามที่ทำให้หอเอนหยุดการเอียง
เพราะว่ามันจะเอียงเพิ่ม 1นิ้ว ทุกๆ 20ปี เคยใช้การเจาะรูแล้วอัดปูน Mortar ใส่แต่ไม่สำเร็จ
หลังจากนั้นก็ลองใช้ตะกั่วหลายร้อยตันถ่วงไปก็พอได้บ้าง แต่มาสำเร็จเมื่อปี 2001 โดยขุดดินด้านที่สูงกว่าออกทีละน้อย สุดท้ายสามารถกู้การเอียงได้ 16 นิ้วซึ่งคาดว่าจะปลอดภัยไปอีก300ปี
หอเอนเมืองปิซาถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก
โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Piazza Dei Miracoli และหอเอนเมืองปิซายังเป็น
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย
( ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaigotravel.com/travel.php?t_id=15
และ http://www.artbangkok.com/detail_page.php?sub_id=2764)
เนื้อหาครอบคลุม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ปลื้มมม :)
ตอบลบข้อมูลน่าสนใจมากเลยค่ะ ซักครั้งต้องไปให้ได้ :)
ตอบลบแปลว่าจะล้มจิงๆสักวันสินะ
ตอบลบเก็บตังแปบ555อยากไป
ตอบลบ