วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ทำความรู้จัก "หอเอน"


                                         

     "หอเอนเมืองปิซ่า"




ประวัติของหอเอนเมืองปิซ่า

           หอเอนเมืองปิซา  (อิตาลี: Torre pendente di Pisa หรือ La Torre di Pisa; อังกฤษ: Leaning Tower of Pisa) ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร ค.ศ.1987 หอเอนเมืองปิซาถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Piazza Dei Miracoli หอเอนเมืองปิซายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย ปัจจุบันนี้ หอเอนเมืองปิซ่า ลาดเอียงลงมาประมาณ 13 องศาแล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าหอเอนมีโอกาสพังถล่มลงมาแน่นอน โดยทุก ๆ 20 ปี หอคอยแห่งนี้จะเอนลง 1 นิ้ว และมีคนทำนายว่า หอคอยแห่งนี้จะพังถล่มลงมาในปี 2200 หากยังไม่มีใครหาทางป้องกันได้ เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี
หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับ       การปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา

        ความเอนของหอปิซ่า คือมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยว คนรักศิลปะและนักวิชาการ ต้องไปสัมผัสความมหัศจรรย์นี้ และต่างมีคำถามว่าหอนี้ จะสามารถอยู่ได้ไปตลอดกาล หรือจะพังลงมาเมื่อไหร่และยังมีนักดาราศาสตร์ชื่อดังของโลกที่ชื่อ กาลิเลโอ เคยใช้หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) นี้ทดลองเกี่ยวกับเรื่อง แรงโน้มถ่วง ในตอนที่เขาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปิซา โดยใช้ลูกบอล 2 ลูกมี่น้ำหนักไม่เท่ากันทิ้งลงมา เพื่อพิสูจน์ว่า ลูกบอล 2 ลูกจะตกถึงพื้นพร้อมกัน ซึ่งก็เป็นตามที่กาลิเลโอคาดไว้  ในปี ค.ศ.1934 เบนิโต มุสโสลินี พยายามจะทำให้หอกลับมาตั้งฉากดังเดิม โดยเทคอนกรีตลงไปที่ฐาน แต่กลับทำให้หอยิ่งเอียงมากขึ้นไปอีก


         หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมาหลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) ได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา

        มีความพยายามที่ทำให้หอเอนหยุดการเอียง เพราะว่ามันจะเอียงเพิ่ม 1นิ้ว ทุกๆ 20ปี เคยใช้การเจาะรูแล้วอัดปูน Mortar ใส่แต่ไม่สำเร็จ หลังจากนั้นก็ลองใช้ตะกั่วหลายร้อยตันถ่วงไปก็พอได้บ้าง แต่มาสำเร็จเมื่อปี 2001 โดยขุดดินด้านที่สูงกว่าออกทีละน้อย สุดท้ายสามารถกู้การเอียงได้ 16 นิ้วซึ่งคาดว่าจะปลอดภัยไปอีก300ปี

       
 หอเอนเมืองปิซาถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Piazza Dei Miracoli และหอเอนเมืองปิซายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย












               ( ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaigotravel.com/travel.php?t_id=15
           และ http://www.artbangkok.com/detail_page.php?sub_id=2764)



              

4 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อหาครอบคลุม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ปลื้มมม :)

    ตอบลบ
  2. ข้อมูลน่าสนใจมากเลยค่ะ ซักครั้งต้องไปให้ได้ :)

    ตอบลบ
  3. แปลว่าจะล้มจิงๆสักวันสินะ

    ตอบลบ
  4. เก็บตังแปบ555อยากไป

    ตอบลบ